“ซ่อมอู่” กับ “ซ่อมห้าง” ซ่อมไหนดีกว่า?

“ซ่อมอู่” กับ “ซ่อมห้าง” ซ่อมไหนดีกว่า?



ซ่อมอู่ คือ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุต้องนำรถเข้าซ่อมอู่ธรรมดาทั่วไป ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภท

1. อู่ในเครือบริษัทประกัน คืออู่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันที่ทำไว้ เวลาเรานำรถไปซ่อม หรือไปเคลมประกัน ก็สามารถนำรถเข้าไปซ่อมได้เลย และเมื่อซ่อมเสร็จก็นำรถออกมาได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน หรือเสียเงินเพิ่มเติม ในกรณีที่ไม่ได้ซ่อมนอกเหนือจากที่ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้

2. อู่นอกเครือบริษัทประกัน คืออู่ที่ไม่ได้อยู่ในการรับรองของบริษัทประกันที่ทำไว้ ซึ่งอาจเป็นอู่ซ่อมรถใกล้บ้านผู้ขับขี่ หรือเป็นอู่ที่ผู้ขับขี่ประสงค์จะนำเข้าซ่อมเองหรือเป็นอู่ที่มีคนแนะนำว่าทำดี ฯลฯ ในกรณีซ่อมอู่ที่อยู่นอกเครือประกันแบบนี้ ผู้เอาประกันจะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง

ข้อดีของการซ่อมอู่

1.  ค่าเบี้ยประกันรถถูกกว่าซ่อมห้าง

2.  มีอู่ให้เลือกมากมาย ทั้งอู่ใกล้บ้านหรืออู่ที่มีคนแนะน

3.  ราคาค่าซ่อมสามารถต่อรองได้ง่ายกว่าศูนย์บริการ

4.  ระยะเวลาในการซ่อมไม่นานเท่าซ่อมห้าง

ข้อเสียของการซ่อมอู่

1. อะไหล่ที่ใช้อาจไม่ใช่ของแท้ และบางครั้งอาจนำอะไหล่เก่ามาเปลี่ยนให้

2. หากเกิดปัญหาหลังซ่อม บางอู่อาจไม่รับผิดชอบหรือแก้ไขให้

3. อาจโดนโกงเรื่องค่าอะไหล่ และค่าแรงที่ถูกคิดเงินเกินจริง

4. งานซ่อมอาจออกมาไม่ดี ไม่เนี้ยบ ไม่สวย ไม่สมบูรณ์

 

ซ่อมห้าง คือ การนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์ตามยี่ห้อของผู้ขับขี่ ซึ่งโดยปกติมักจะต้องนำไปซ่อมศูนย์ฯ ที่ผู้ขับขี่ออกรถมา ว่าง่ายๆ คือซื้อที่ไหนก็ซ่อมที่นั่น หรืออาจเป็นศูนย์อื่นที่สะดวกกว่าศูนย์ที่ออกรถมาก็ได้แต่เป็นของยี่ห้อที่ผู้ขับขี่ขับ ที่เรียกกันว่าซ่อมห้างนั้น เพราะศูนย์บริการทั่วไปมักจดทะเบียนเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า ซ่อมห้างนั่นเอง

ข้อดี ของการซ่อมห้าง

1.  มีอะไหล่แท้ไว้รองรับ พร้อมซ่อมได้ทันที

2.  รับประกันงานซ่อม หากมีปัญหาในระยะเวลารับประกัน

3.  มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แยกกันทำงานอย่างชัดเจน เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์, ช่างซ่อมช่วงล่าง ฯลฯ

4.  การซ่อมออกมามีมาตรฐาน

ข้อเสีย ของการซ่อมห้าง

1. ราคาเบี้ยประกันสูงกว่า

2. ราคาแพงกว่าซ่อมอู่ เพราะมีค่าภาษี และค่าแรงที่สูงกว่า หรือมีส่วนต่างอื่นๆ เพิ่มเติม

3. ใช้เวลาในการซ่อมนาน เนื่องจากต้องรอคิวเข้าซ่อม และบางครั้งระยะเวลาในการซ่อมไม่แน่นอน

4. อะไหล่บางอย่างไม่เสีย แต่ก็จับเปลี่ยน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น

5.  บางจังหวัดอาจไม่มีศูนย์บริการยี่ห้อรถที่เราใช้

 

ซึ่งวิธีการดูว่ารถยนต์ของคุณซ่อมอู่หรือซ่อมห้างให้ดูที่หน้ากรรมธรรม์จะระบุไว้ชัดเจน หรือโทรสอบถามกับบริษัทประกันรถยนต์ที่ดูแลคุณอยู่ และไม่ว่าซ่อมอู่หรือซ่อมห้างจะมีความแตกต่างกันมาน้อยเพียงใด ท้ายที่สุดการเลือกใช้บริการที่ใดก็อยู่ที่ตัวของผู้ใช้รถว่าสะดวกแบบไหนมากกว่า และการเลือกว่าจะ “ซ่อมห้าง” กับ “ซ่อมอู่” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีผลต่อค่าเบี้ยด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนต่ออายุประกันอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขในส่วนนี้ด้วย


ที่มา : www.tipinsure.com

 798
ผู้เข้าชม

gps

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์